โรคริดสีดวงทวารหนัก (Hemorrhoids หรือ Piles):
คือ โรคที่เกิดจากการอักเสบ และ/หรือการบวมของกลุ่มเนื้อเยื่อหลอดเลือด (Vascular structures, เนื้อเยื่อที่ประกอบด้วย หลอดเลือดดำ หลอดเลือดแดง และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน) ที่อยู่ภายในทวารหนักและรอบๆ ปากทวารหนัก โดยเนื้อเยื่อกลุ่มนี้มีหน้าที่ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อทวารหนักในช่วงมีการขับถ่ายอุจจาระ และช่วยให้ปากทวารหนักปิดสนิทช่วงไม่ปวดถ่ายอุจจาระ
ภายในทวารหนัก (ทวารหนักอยู่ต่อจากลำไส้ตรง โดยลำไส้ตรง คือลำไส้ใหญ่ตอนล่างสุด เป็นลำไส้ใหญ่ส่วนที่ต่อกับทวารหนัก) จะมีแนวเส้นที่เรียกว่า เส้นเด็นเทท หรือเส้นเพ็กทิเนท (Dentate line หรือ Pectinate line) ซึ่งเป็นเส้นแบ่งทวารหนักออกเป็นส่วนล่างและส่วนบน ทั้งนี้เมื่อเกิดริดสีดวงทวารในส่วนที่อยู่ใต้ต่อเส้นเด็นเทท เรียกว่า “โรคริดสีดวงภายนอก (External hemorrhoids)” และเมื่อเกิดริดสีดวงทวารเหนือต่อเส้นเด็นเทท เรียกว่า “โรคริดสี ดวงภายใน (Internal hemorrhoids)”
โรคริดสีดวงทวารเป็นโรคพบบ่อยโรคหนึ่ง: ในสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยมีอาการจากโรคนี้ได้ประมาณ 5% ของประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมด โดยพบได้สูงในช่วงอายุ 45-65 ปี (อาจพบในเด็ก และในอายุอื่นๆ ได้ทุกอายุ ทั้งนี้ขึ้นกับสาเหตุ) ซึ่งผู้หญิงและผู้ชายมีโอกาสเกิดโรคได้ใกล้เคียงกัน
แพทย์วินิจฉัยโรคริดสีดวงทวารได้จาก...: ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจบริเวณก้อนเนื้อ/ทวารหนัก และการส่องกล้องตรวจทวารหนักและลำไส้ตรง ในบางครั้งอาจมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา เมื่อต้องแยกจากโรคมะเร็ง
เมื่อมีอาการของโรคนี้แล้วหลายคนจึงต่างพยายามมองหาวิธีที่จะช่วยแก้ไข เราจึงมีอีกหนึ่งวิธีที่อยากบอกต่อก็คือ การใช้สมุนไพรอย่าง "เพชรสังฆาต" (Cissus quadrangularis) ซึ่งถือเป็นสมุนไพรอันดับหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องการช่วยรักษาอาการของโรคริดสีดวงทวาร และจากความโดดเด่น สรรพคุณของเพชรสังฆาต นี่เอง จึงมีการนำสมุนไพรอย่างเพชรสังฆาตมาผลิตเป็นยาในรูปยาเม็ดเพื่อให้ช่วยรักษาโรคได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพชรสังฆาต... สร้างมวลกระดูก เพิ่มคอลลาเจน:
แต่สำหรับสรรพคุณและประโยชน์ของต้นเพชรสังฆาตไม่ได้จบอยู่เพียงแค่การรักษาโรคริดสีดวงทวารเท่านั้น เพราะเพชรสังฆาตยังสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคอื่นได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยดูแลและรักษาโรคกระดูกบางได้ โดยมีงานวิจัยในประเทศพบว่า ในต้นเพชรสังฆาตมีสารสำคัญที่ทำให้เซลล์มีการสร้างมวลกระดูกเพิ่ม และยังเพิ่มการสร้างคอลลาเจนในเซลล์สร้างกระดูก ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่อยู่ในกลุ่มสูญเสียมวลกระดูกง่าย เช่น วัยผู้สูงอายุ ผู้ที่อยู่ในวัยทอง ฯลฯ
ลักษณะต้นเพชรสังฆาต:
โดยทั่วไปแล้วเรานิยมปลูกต้นเพชรสังฆาตเพื่อใช้ประดับบ้านเรือน เพราะเป็นพืชที่มีลักษณะแปลกตา มีดอกและช่อสีแดงที่ดูสวยงาม แต่เมื่อได้ทราบถึงสรรพคุณทางยาของสมุนไพรเพชรสังฆาตชนิดนี้กันบ้างแล้ว น่าจะทำให้เราได้เห็นว่าเจ้าต้นเพชรสังฆาตนั้นมีคุณค่าเพิ่มขึ้นอีกมากเลย โดยเฉพาะถือเป็นยาที่มีราคาถูกมากด้วย
10 สรรพคุณของเพชรสังฆาต ประโยชในการรักษาโรค:
1. เพชรสังฆาตมีสรรพคุณในการรักษาโรคริดสีดวงทวารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทียบเท่ากับการใช้ยาแผนปัจจุบันหรือยาจากต่างประเทศเลยทีเดียว โดยจะช่วยลดอาการปวดและการอักเสบได้ ทำให้หลอดเลือดแข็งแรงและหลอดเลือดดำที่บวมเป่งบริเวณทวารหนักหดตัวลงได้
2. ประโยชน์ของเพชรสังฆาตมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการท้องผูก
3. เพชรสังฆาตช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย ช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง และท้องอืดท้องเฟ้อ
4. เพชรสังฆาตมีสรรพคุณช่วยทำให้เจริญอาหาร
5. เพชรสังฆาตมีสรรพคุณทำให้กระดูกแข็งแรง บำรุงกระดูก ลดการสูญเสียมวลกระดูก และช่วยในการสมานกระดูกที่แตก หัก หรือซ้น โดยจะกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์กระดูกได้เร็วและแข็งแรงขึ้น
6. ในเพชรสังฆาตอุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยในการกำจัดและป้องกันสารพิษต่างๆ และช่วยลดอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี
7. ในเพชรสังฆาตมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารพฤกษเคมีที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีเช่นกัน แถมยังมีประสิทธิภาพสูงสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้อีกด้วย
8. เพชรสังฆาตมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี จากการทดลองในกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานพบว่า ทำให้น้ำหนัก ไขมันในร่างกาย และเส้นรอบเอวลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งยังมีผลดีทำให้ระดับคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดลดลงด้วย เนื่องจากใยอาหารในเพชรสังฆาตที่ช่วยทำให้อิ่มเร็ว ยับยั้งเอนไซม์ที่ย่อยแป้ง น้ำตาล และไขมัน จึงลดการดูดซึมอาหาร
9. ต้นเพชรสังฆาตมีประโยชน์ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และช่วยแก้อาการเลือดกำเดา ช่วยแก้อาการประจำเดือนมาไม่ปกติและแก้เลือดเสียในสตรี
10. เพชรสังฆาตมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด หรือเลือดออกตามไรฟันได้
เพชรสังฆาต...กินอย่างไร ให้สุขภาพดี ต้านทานโรค:
วิธีการกินเพชรสังฆาตที่เหมาะสมคือ อาจกินพร้อมกับอาหารหรือหลังอาหารทันที หรือสามารถกินเพชรสังฆาตในรูปแบบยาเม็ดก็ได้ประโยชน์เหมือนกัน ไม่ควรกินเพชรสังฆาตแบบสดอย่างเดียวเด็ดขาด เพราะสารแคลเซียมออกซาเลตในเพชรสังฆาตจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่คอและเยื่อบุภายในปากได้ ที่สำคัญคือ ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ร่วมกับการออกกำลังกายด้วยก็จะยิ่งดีมาก แค่นี้ร่างกายของเราก็จะปลอดภัยทั้งจากโรคริดสีดวงทวารและโรคอื่นๆ กันแล้วล่ะ
รู้ถึงสรรพคุณและประโยชน์ของเพชรสังฆาต...ตัวเพชรฆาต "โรคริดสีดวง" กันไปแล้ว ยามป่วยไข้ ไม่สบาย อย่าลืมนึกถึงสมุนไพรใกล้ตัว อย่าง "เพชรสังฆาต" นะคะ
ข้อมูลจาก:
sukkaphap-d.com
Hemorrhoid. http://en.wikipedia.org/wiki/Hemorrhoid [2012, Jan 30].
Hemorrhoid surgery. http://emedicine.medscape.com/article/195401-overview#showall [2012, Jan 30].
Mounsey, A., Halladay, J., and Sadiq, T. (2011). Hemorrhoids. Am Fam Physician. 84, 204-210.